หลังจากมัลคอล์ม เกลเซอร์ เข้าเทคโอเวอร์สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ไม่นาน เขาก็แต่งตั้งให้ลูกชาย 3 คนของเขา อันได้แก่ โจเอล, ไบรอัน และ อาฟแรม เข้ารับตำแหน่งในบอร์ดบริหารของสโมสร ซึ่งทำให้เขามีอำนาจควบคุมสโมสรมากขึ้น
เกลเซอร์ มีหุ้นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่มากกว่า 75% และขณะนี้ครอบครัวของเขายึดครองครึ่งหนึ่งของบอร์ดบริหารไปแล้ว
ระบบการบริหารแบบครอบครัวใช้ได้ผลเป็นอย่างดีที่สโมสรกีฬาอีกแห่งหนึ่งของตาแก่คนนี้ นั่นคือ แทมป้าเบย์ บัคคาเนียร์ สโมสรอเมริกันฟุตบอลใน เอ็นเอฟแอล
บรูซ อัลเลน ผู้จัดการทั่วไปของ บัคคาเนียร์ แชมป์ซูเปอร์โบวล์ปี 2003 อ้างว่า ครอบครัว เกลเซอร์ เป็นครอบครัวที่ “ยอดเยี่ยม”
แต่ แชร์โฮลเดอร์สยูไนเต็ด กลุ่มต่อต้านการเข้ามาเทคโอเวอร์ของ เกลเซอร์ อย่างต่อเนื่อง อธิบายถึงสมาชิกใหม่ 3 คนของบอร์ดบริหารว่าเป็น “หมูน้อย 3 ตัว”
โจเอล เกลเซอร์
แถลงการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อธิบายถึงลูกชายคนที่ 4 ของ เกลเซอร์ ว่า มี “ประสบการณ์อย่างกว้างขวางในการบริหารจัดการทางด้านกีฬา” และเราจะได้เห็นเขาเกี่ยวข้องกับสโมสรมากที่สุด
โจเอล ซึ่งอายุ 38 ปี ยอมรับด้วยตัวเองว่าเป็น “พวกบ้าบอล” คนหนึ่ง โดยเขาหลงใหลในกีฬาชนิดนี้จากการที่เคยอยู่ร่วมห้องพักเดียวกับแฟนบอล ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ คนหนึ่ง และเป็นที่คาดกันว่าเขาจะเข้ามาทำหน้าที่แทน รอย การ์ดเนอร์ ในตำแหน่งประธานสโมสร
เขาจะแบ่งเวลาการทำงานระหว่างที่อังกฤษและสหรัฐอเมริกา แต่ถึงแม้จะมีรายงานว่าเขาพูดคุยกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทางโทรศัพท์ ก็ยังไม่แน่ชัดว่าเขาจะใช้เวลามากเท่าใดใน แมนเชสเตอร์
ในปี 1995 เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นรองประธานบริหารของ บัคคาเนียร์ ซึ่งเขายังคงดำรงตำแหน่งนี้อยู่
นอกจากทางด้านกีฬาแล้ว เขายังเป็นรองประธานของ เฟิร์ส อัลไลด์ คอร์ปอเรชั่น บริษัทผู้ถือหุ้นสำหรับผลประโยชน์ทางธุรกิจของครอบครัว
ในด้านการทำงานร่วมกับพ่อวัย 76 ปี โจเอล จะเป็นผู้ตัดสินใจชี้ขาดในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ไบรอัน เกลเซอร์
ลูกชายวัย 40 ปี ผู้นี้เป็นเจ้านายใหญ่ในทางปฎิบัติของสโมสรกีฬาอีกแห่งหนึ่งของพ่อของเขา นั่นคือบัคคาเนียร์ โดยได้เป็นรองประธานบริหารตั้งแต่ปี 1995 และเขายังเป็นรองประธานของ เฟิร์ส อัลไลด์ คอร์ปอเรชั่น อีกด้วย
ในช่วงทศวรรษที่เขาเข้าร่วม บัคคาเนียร์ ชนะซูเปอร์โบวล์เพียงครั้งเดียว แต่ ไบรอัน มีบทบาทสำคัญในการยกเครื่องทีมที่ใกล้ตายให้ฟื้นขึ้นมาใหม่
เขาเป็นตัวการสำคัญในการออกแบบ วางแผน และก่อสร้างสนามแห่งใหม่ของ บัคคาเนียร์ และช่วยในการออกแบบตราสโมสรใหม่ด้วย
ไบรอัน เป็นผู้ทำให้เกิดสปอนเซอร์รายใหม่ ซึ่งทำให้รายได้ทางด้านโฆษณาเพิ่มขึ้น โดยให้โอกาสในการโฆษณาแก่บริษัทที่ไม่มีความเสี่ยงในการลงทุน
นักมายากลด้านการตลาดผู้นี้จะเข้ามาเพิ่มค่าให้กับเงินทุกๆ เพนนีที่ลงทุนไปในชื่อของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั่วโลก
อาฟแรม เกลเซอร์
เหมือนกับ โจเอล แถลงการณ์ของสโมสรกล่าวว่า อาฟแรม มี “ประสบการณ์อย่างกว้างขวางในการบริหารจัดการทางด้านกีฬา”
ลูกชายคนโตวัย 44 ปี จากลูกทั้งหมด 6 คนของ เกลเซอร์ ถือเป็นผู้วางแผนในการเทคโอเวอร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยมูลค่า 790 ล้านปอนด์ แต่เขามีประวัติการทำงานอยู่นอกวงการกีฬา
อาฟแรม เป็นรองประธานของ เฟิร์ส อัลไลด์ คอร์ปอเรชั่นด้วยเช่นกัน และในปี 1995 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นประธาน และผู้อำนวยการบริหารของ ซาปาต้า คอร์ปอเรชั่น บริษัทผู้ถือหุ้นซึ่งก่อตั้งร่วมกับอดีตประธานาธิบดี จอร์จ บุช ซีเนียร์ โดยที่ครอบครัว เกลเซอร์ ถือหุ้นอยู่ 51.3%
บริษัทดังกล่าวมีบริษัทย่อย 2 แห่ง โดยเขาเป็นประธานบอร์ดบริหารของทั้ง 2 บริษัทนี้
ในแง่ลบ อาฟแรม ซึ่งหน้าตาคล้ายกับพ่อของเขามากที่สุด สูญเสียผลกำไรอย่างมากในการลงทุนที่ล้มเหลวกับ zap.com
DaKinG
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC